มหาวิทยาลัย คือ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ในด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงหลากหลายสาขาวิชา เพื่อให้ประกาศนียบัตร อนุปริญญา
หรือปริญญา แก่ผู้สำเร็จการศึกษาในหลายระดับรวมถึง ปริญญาตรี ปริญญาโท และ
ปริญญาเอก รวมทั้งการทำการวิจัยและให้บริการทางวิชาการแก่สังคม
N. university
def:[สถาบันอุดมศึกษาที่มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาในด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงหลายสาขาวิชา
หรือหลายกลุ่มสาขาวิชา เพื่อให้ประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญา
และประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่ผู้สำเร็จการศึกษา]
sample:[นักศึกษาใหม่มีเพื่อนมาชวนไปเข้าชุมนุมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย]
[มะหาวิดทะยาไล]
น.
สถาบันอุดมศึกษาที่มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาในด้านวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงหลายสาขาวิชา
หรือหลายกลุ่มสาขาวิชา เพื่อให้ประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญา
และประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่ผู้สําเร็จการศึกษา
รวมทั้งดําเนินการวิจัยและให้บริการทางวิชาการแก่สังคม
และทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ.
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
เรื่องเล่า
ชีวิตในรั้วมหาลัย
ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับการเรียนรู้กับสิ่งต่างๆมากมาย
มีทั้งเรื่องดีและไม่ดี การเรียนรู้ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เรียนรู้วิชาการเรียนแต่ต้องมีการเรียนรู้การใช้ชีวิต
การรับน้อง การคบเพื่อน การมีคนรัก แสงสีวิลัย และอื่นๆอีกมากมาย
การมีแฟนหรือความรัก สถานที่ๆเรียกว่ามหาวิทยาลัยเป็นอีเป็นที่ให้ความรู้เรื่องสถานที่หนึ่งที่ไม่พียงแต่การให้ความรู้ด้านวิชาการแต่ยังเป็นที่ๆหนึ่งที่ให้ความรู้เรื่องการมีความรัก
การคบเพศตรงข้ามเป็นแฟน รวมไปถึงขั้นการใช้ชีวิตคู่ก่อนแต่งงาน เพราะสังคมหาวิทยาลัยเป็นสังคมที่กว้างทุกคนที่มายืนอยู่ ณ จุดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นลูกร้อยพ่อพันแม่
การที่เราจะเลือกคบใครสักคนนั้นแน่นอนว่าจะอยู่นอกเหนือสายตาของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เพราะฉะนั้นการมีแฟนในรั้วมหาวิทยาลัยจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่หลายๆคนมากกว่า80เปอร์เซ็นต์ที่ต้องพบเจอ
และรูปแบบของความรักและการมีแฟนก็จะแตกต่างกันออกไป
ถ้าเป็นลักษณะของการคบในแง่ที่ดีผู้ชายก็จะให้เกียรติผู้หญิงเสมอไม่ชิงสุกก่อนห่ามผู้หญิงก็จะรักนวลสงวนตัวและนำพากันไปในทางที่ดีตั้งใจเรียนดูแลกันเป็นอย่างดีถ้าในแง่ที่ไม่ดีนัก
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไปในส่วนตรงข้ามกันคือการใช้ชีวิตคู่ที่รวดเร็วโดยบางคู่เกิดปัญหาต่างๆตามมาเช่น
การตั้งท้องของฝ่ายหญิงที่ทำให้เกิดการทำแท้งเนื่องจากภาวะที่ไม่พร้อมทั้งคู่เป็นต้น
แสงสีหรือผับบาร์ ปัจจุบันจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้เข้ามามีอิทธิพลอย่างยิ่งกับสังคมนิสิตนักศึกษาที่มีอายุอยู่ในช่วงต่อจากวัยรุ่นไปหาวัยทำงานจึงทำให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคนวัยนี้ไป
สถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ๆหลายๆคนใช้ผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยกับการเรียน ถ้าโชคร้ายหน่อยหลายคนที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเสียการเรียน
เสียอนาคตเพราะสิ่งเหล่านี้มากมายเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้นั่นเอง
การเรียนในมหาลัยนั้นแตกต่างจากการเรียนในตอนมัธยม
จะเข้าเรียนก็ได้ไม่เข้าก็ได้ ไม่มีใครมาคอยบอกคอยเตือน
สำหรับบางวิชานั้นก็ยากมากเรียนไม่รู้เรื่อง บางวิชาก็แสนจะง่ายดาย
สัปดาห์แรกที่เริ่มเรียนฉันปรับตัวแทบไม่ทัน
มีเรื่องอื่นๆที่ต้องคิดนอกจากเรื่องเรียนมากมาย
แต่โชคดีที่ฉันเริ่มปรับตัวได้ในสัปดาห์ถัดมา แต่ก็ยังปรับตัวได้ไม่มากนัก
ถึงขั้นว่าฉันโทรกลับไปที่บ้านแล้วบอกว่า เหนื่อย ท้อ ไม่ยากเรียนแล้ว
แต่ที่บ้านก็พยายามเกลี่ยกล่อมและบอกว่า"ต้องพยายาม ค่อยเป็นค่อยไป
ต้องอดทนให้มากๆ ใจเย็นๆพี่ๆก็เคยผ่านมาแล้วเหมือนกัน
"เมื่อฟังแล้วฉันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นและกลับมาพยายามใหม่
และฉันก็เริ่มเรียนตามทันเพื่อน เรียนเข้าใจมากขึ้น จนวันนี้ฉันสามารถเรียนได้อย่างมีความสุข
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเจอเมื่อมาอยู่ในมหาลัยก็คือ
"การรับน้อง"มันเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนกลัวและหนึ่งในนั้นก็คือฉัน
ก่อนมามหาลัยฉันเตรียมใจไว้กับการรับน้อง
เพราะฟังจากการเล่าของพี่ๆว่าการรับน้องมันโหด เหนื่อย ต้องร้องไห้ แต่พอฉันได้มาเจอกับตัวเองแล้วมันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร
อาจมีบ้างที่เป็นอย่างที่เขาพูด แต่ฉันก็รับได้และสนุกกับการรับน้อง
เพราะการรับน้องที่ฉันเจอเป็นการรับน้องเหมือนกับว่าพี่ๆเป็นพี่ของเราจริงๆพี่ๆเขาช่วยเหลือทุกอย่าง
ให้คำปรึกษาในเรื่องการเรียน และอื่นๆมากมาย การรับน้องที่ฉันเจอถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสุข
.เพื่อนถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญกับเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ
แต่เมื่อมาอยู่มหาลัยเราก็จะได้รู้จักคำว่าเพื่อนแท้และเพื่อนไม่แท้แน่นอน มีคนที่หวังดีจริงใจไม่จริงใจมากมายเพื่อนเจอเพื่อนไม่ดีก็โชคร้ายไป
10
วิธีดำรงชีวิตในมหาวิทยาลัย
ถ้ากล่าวถึงการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ใครๆก็อาจคิดว่ามันเป็นเรื่องง่าย
ถ้าไม่ได้ลองเข้ามาใช้ชีวิตจริงๆก็ไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน กว่าจะเรียนจบ 4
ปีต้องเผชิญกับเหตุการณ์มากมายที่เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกันอออกไปวันนี้ดิฉันจึงได้สรรหาบทความและข้อคิดดีๆมาฝากเพื่อนๆน้องที่กำลังกังวลในเรื่องใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยดังนี้ค่ะ
1.ปรับตัวให้เข้ากับสังคม
คือพยายามที่จะเปิดตัวเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามาในอนาคตอันใกล้
2.เข้าร่วมกิจกรรมทางมหาวิทยาลัย
คือเทื่อทางมหาวิทยาลัยมีงานก็เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อที่จะได้ประสบการณ์
3.รู้จักคบเพื่อนและคบให้ถูกคือ
รู้จักที่จะเข้าหาผู้อื่นเข้าร่วมกับสังคมเพื่อที่จะปรับตัวเป็น
นั่นคือการรู้จักคบเพื่อนไปในทางที่ดี
4.การรู้จักที่จะให้อภัย
แต่ข้อนี้ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้มีวงจำกัดอยู่แค่ในรั้วมหาวิทยาลัย ถ้าจะดีควรจะเผยแพร่ไปสู่ผู้อื่นด้วยจะดีกว่า
เพราะเมื่อเรารู้จักการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำผิดพลาดเปรียบกับสำนวนไทยที่ว่า
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร นั่นแล
5.หัดเข้าชมรมเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์หลายอย่าง
มหาวิทยาลัยของคุณคงมีชมรมให้คุณเลือกอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ด้านกีฬา คนตรี
คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ
6.อย่าเดินหลังเที่ยงคืน
โดยเฉพาะถ้าเป็นหญิงสาววัยขบเผาะ ยิ่งต้องระวังเอาไว้เลย
ช่วงพระอาทิตย์ตกดินเป็นต้นไปพวกมิจฉาชีพมาเดินกันขวักไขว่ทางที่ดีท่านควรที่จะพาเพื่อนเดินไปด้วยสักคน
7.เลือกหอพักให้ดีถ้าคุณเป็นหญิงสาวคุณอาจเลือกหอพักที่เป็นหญิงล้วน
เพราะอาจพักหอหญิงและหอชายรวมกัน มันอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมาก็ได้
8.ตีซี้อาจารย์
คุณคิดว่าอยู่ในมหาลัยคบเพื่อนอย่างเดียวพอแล้วหรือ ไม่หรอกคะ
การคบแต่เพื่อนมันจะทำให้คุณเรียนดีขึ้นไหม คะแนนเพิ่มขึ้นหรือไม่
ต้องเข้าหาอาจารย์คุณจะได้รับคำปรึกษามากมาย
แต่ที่สำคัญอาจารย์จะแปลงร่างเป็นนักจิตวิทยาได้
9.มาเรียนอย่างสม่ำเสมอ
การที่คุณมาเข้าเรียนสายนั้นอาจทำให้คุณพลาดอะไรบางอย่างไปอย่างไม่คาดคิดเช่น
พลาดการเช็คชื่อ หรือแนวข้อสอบ
10.คิดทุกอย่างก่อนที่จะทำอะไรลงไปการที่จะทำอะไรลงไปนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือกิจกรรมคุณควรทำอย่างไตร่ตรองก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ
วิธีการใช้ชีวิตให้มีความสุขตลอดเวลาการเรียนนั้น
ก็มีอยู่ด้วยกันมากมาย แต่ไม่ได้มีบัญญัติไว้อย่างเป็นทางการจากวิชาการท่านใด
มีเพียงพวกเราที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในมหาลัยนี้อย่างมีความสุขเท่านั้น อย่างไรก็ตามการดำรงชีวิตรั้วมหาวิทยาลัย
ก็ต้องขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราเองเหมือนกับคำโบราณ ที่กล่าวว่า
เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม เพื่ออนาคตของตัวเราเอง
การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นเป็นสิ่งที่ดี
แต่ก็ต้องเลือกดูหน่อยว่ากิจกรรมนั้นมีประโยชน์และสำคัญไหมเช่น
กิจกรรมน้องใหม่เป็นกิจกรรมแรกที่จะได้ทำ ไม่ควรพลาดกิจกรรมรับน้อง
เพราะจะทำให้เราได้รู้จักเพื่อนๆ รู้จักการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย
ซึ่งถ้าพลาดกิจกรรมนี้ไปจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะในชีวิตเราก็จะมีเพียงแค่ครั้งเดียว
กิจกรรมถือได้ว่าเป็นการฝึกฝนให้คนเข้าสู่สังคมสาธารณะมากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นการเข้าร่วมกิจกรรมหลายๆอย่างจึงเป็นแนวทางที่ดีในการปรับตัวเอง โดยเฉพาะการเข้าร่วมกิจกรรมที่ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือแม้กระทั้งกิจกรรมทางวิชาการที่ทางภาควิชาได้จัดขึ้นก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อตัวเองอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฝึกอบรม หรือ สัมมนาเรื่องต่างๆ
หรือแม้แต่กิจกรรมร่วมสัมพันธ์กันระหว่างพี่น้องก็มีประโยชน์มากเลยทีเดียวสำหรับชีวิตเด็กมหาลัย
เคล็ดลับในการทำกิจกรรม
และให้ผลการเรียนของเราได้ดี
1.แบ่งเวลาให้ถูก แบ่งความสำคัญว่า
กิจกรรมไหนควรทำไม่ควรทำ
2.จัดตารางเวลา อย่างน้อย
ในอาทิตย์หนึ่ง ควรมีเวลาอ่านหนังสือ สัก 3 วัน วันละ ประมาณ 1 ชั่วโมง
3.ก่อนสอบ 1 เดือน เคลียร์กิจกรรม
เคลียร์งานที่ต้องทำให้เสร็จ แล้วตั้งหน้าตั้งตา อ่านหนังสือให้เต็มที่
4.ถ้าเป็นไปได้
ไม่ควรทำกิจกรรมจนดึกดื่น แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก่อนหน้านั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ
เพราะถ้าวันรุ่งขึ้นมีเรียน จะได้ไปเรียนได้ ไม่จำเป็นไม่ควรโดด ถ้าต้องโดด
รีบบอกเพื่อนให้ช่วยเก็บงาน จด lecture ไว้ให้เลย
จำเอาไว้ว่า “กิจกรรม เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ให้ประสบการณ์ของเรา
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเรียน เพราะมันให้อนาคตกับเรา”
ตัวอย่างกิจกรรมรับน้องมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
น่าอ่าน มากครับ
ตอบลบน่าอ่าน มากครับ
ตอบลบคิดถึงสมัยเรียนเลยค่ะ คิดถึง เพื่อน มากเลยตอนนี้
ตอบลบคิดถึงสมัยเรียนเลยค่ะ คิดถึง เพื่อน มากเลยตอนนี้
ตอบลบ